Archivum Honkai: Star Rail

อันดับที่ 3 "ค่ำคืนสุดท้ายใน Luofu"

อันดับที่ 3 "ค่ำคืนสุดท้ายใน Luofu"
ผู้กำกับ: Wu He
ผู้เขียนบท: Wu He

...บางครั้งฉันก็คิดว่า ชีวิตนั้นมีความผิดหวัง 3 ส่วน ความตื่นตระหนก 3 ส่วน ความไร้ซึ่งหนทางอีก 3 ส่วน และเพิ่มความรักและความเจ็บปวด อย่างละครึ่งส่วน
...ถ้าหากได้โอกาสอีกครั้ง คุณอยากจะมีชีวิตอีกครั้งไหม?
...นั่นย่อมแน่นอน

Hai Yuan เป็นพ่อค้าใน Xianzhou เขามีอายุ 1,100 ปีและใกล้จะกลายเป็น Mara-Struck เข้าไปทุกทีแล้ว ทุกวันนี้ เขาแทบไม่สามารถครุ่นคิดอะไรได้อย่างไหลลื่นอีก จึงได้แต่ต้องอดทนรับการกลืนกินของความเป็นอมตะ และในค่ำคืนก่อนที่จะไปรับจุดจบของตัวเองที่ Ten-Lords Commission เขาก็ได้หลับฝันยาวนาน และฝันถึงทุกคนที่ได้เจอมาตลอดชีวิตหนึ่งพันปี ซึ่งกำลังรอคอยเขาอยู่ในดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่ ในความฝันอันยาวนานนั้น Hai Yuan ได้สนทนากับผู้คนในความทรงจำของเขา เกี่ยวกับชีวิต ปรัชญา ความเชื่อ และศิลปะ และสุดท้าย เขาก็เข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ในช่วงสุดท้ายของเรื่อง เขาตื่นขั้นมาในยามรุ่งสาง แล้วเดินทางไปยัง Ten-Lords Commission พร้อมกับรอยยิ้ม

Wu He เป็นผู้กำกับและผู้เขียนบทที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้รับเลือกให้ติดสิบอันดับสุดยอดห้วงมายาในรอบพันปี เขาเคยได้รับรางวัลบุคคลหน้าใหม่ไฟแรงของงานเทศกาลห้วงมายาแห่ง Exalting Sanctum ด้วยผลงาน "ขุนเขา Dingjun" และได้รับรางวัลในสาขาห้วงมายายอดเยี่ยม สาขาบทต้นฉบับยอดเยี่ยม และสาขาผลงานมอบประสบการณ์จริงอันยอดเยี่ยม ด้วยผลงาน "ค่ำคืนสุดท้ายใน Luofu"

แต่เมื่อเทียบกับผลงาน "ขุนเขา Dingjun" ที่ได้รับความนิยมในทางสถิติอย่างมากแล้ว "ค่ำคืนสุดท้ายใน Luofu" ที่มีคุณค่าด้านศิลปะสูง กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เข้าใจได้... ผู้คนมากมายอยากไปรับประสบการณ์จากห้วงมายาที่สามารถเติมเต็มความฝันของตนได้ แต่จะมีสักกี่คน ที่อยากจะหลับฝันยาวนานอยู่ในห้วงมายาจริงๆ กันล่ะ?

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผลงาน "ค่ำคืนสุดท้ายใน Luofu" นั้นถือได้ว่าเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง มันเข้าถึงส่วนลึกในหัวใจของผู้คน ทั้งยังค้นหาความปรารถนา และความกลัวในใจของผู้คนได้ ทั้งยังอธิบายว่าคนคนหนึ่งรับรู้ถึงคุณค่า และเข้าใจตนเองในช่วงสุดท้ายของชีวิตได้อย่างไร หากเปรียบเทียบดูแล้ว ผลงานชิ้นนี้เหมือนกับรายงานที่ชำแหละจิตใจของมนุษย์เสียมากกว่า

นักวิจารณ์ที่คอยจับผิดบางส่วนมองว่า Wu He ที่เป็นผู้กำกับชาวมนุษย์จิ้งจอก จึงมีความเข้าใจผิดๆ ในเรื่อง Mara-Struck และในห้วงฝันก็มีจุดที่ไม่ตรงกับหลักการวิทยาศาสตร์อยู่ แต่ในความเป็นจริง Wu He ไม่ได้คิดจะใส่ "หลักการทางวิทยาศาสตร์" อะไรลงไปเลยสักนิด เพราะผลงานชิ้นนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ "ความฝันของ Mara-Struck" แต่เป็นศาสตร์การวิเคราะห์จิตใจเชิงสัญลักษณ์ ที่มีแนวคิดขั้นสูงแฝงอยู่ในนั้นต่างหาก

จริงอยู่ที่มนุษย์จิ้งจอกและ Vidyadhara ไม่มีทางกลายเป็น Mara-Struck แต่พวกเราก็สามารถมองชีวิตของตัวเองผ่านผลงานชิ้นนี้ได้... ทั้งความผิดหวังทั้งหมดของตัวเรา ความเสียใจทั้งหมดของตัวเรา รวมไปถึงการฝืนทนและความไม่ยินยอมของเราเช่นกัน... แต่ขณะเดียวกันก็จะมองเห็นคำตอบ ของคำถามที่ยากที่สุดในโลกที่ว่า: "ทำไมเราถึงต้องใช้ชีวิตต่อไป?"

"ก็เพื่อความรักครึ่งส่วนนั่นไงล่ะ"