Archivum Honkai: Star Rail

นิทานปรัมปรา

Jarilo เทพแห่งฤดูใบไม้ผลิและสงคราม

Perun คือเทพสูงสุดในวิหาร Pantheon ผู้กุมพลังแห่งอัสนี หนวดเคราของเขาทำมาจากทองแดง มือข้างหนึ่งถือโล่ อีกข้างหนึ่งถือขวาน ซึ่งเขาไว้ใช้สังหารพวกคนชั่ว และไว้ฟาดฟันเหล่าวิญญาณร้ายให้สูญสิ้น เมื่อขว้างขวานออกไปก็จะเกิดสายฟ้าฟาดเสียงดังสนั่น และมันจะกลับไปสู่มือของเจ้าของเอง เขาควบรถม้าสองล้อที่ลากโดยแกะตัวผู้ พร้อมกับยิงธนูอัคคีเพื่อกำจัดเหล่าปีศาจที่เกลื่อนฟากฟ้า ด้วยเหตุนี้โลกจึงมีสายฟ้าแลบและเสียงฟ้าร้องนั่นเอง

Perun มีศัตรูตัวฉกาจที่ชื่อว่าเทพ Veles เดิมที Veles เคยเป็นเทพแห่งสงคราม แต่บัดนี้เขามีหน้าที่ดูแลดิน น้ำ ป่าไม้ และโลกใต้พิภพ Veles มีลักษณะครึ่งคนครึ่งงู มีเขาบนหัว มีผมที่หนา และเคราที่ยาว เขาทำปศุสัตว์ฝูงวัวบนดินแดนแห่งความตาย และเขาได้กุมความมั่งคั่ง ผลประโยชน์ ดนตรีและรัตติกาล เขายังเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์และแผนสกปรกอีกด้วย

Perun ไล่ตาม Veles ไปทั่วทุกแห่งบนโลก และใช้อัสนีจากฟากฟ้าโจมตีใส่เขา แต่ Veles กลับแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆ เพื่อคอยหลบซ่อนอยู่ตามด้านหลังของต้นไม้ บ้านเรือน และผู้คน ผลจากการที่ Perun บันดาลโทสะ เขาจึงโจมตีใส่ต้นไม้ บ้านเรือน รวมไปถึงผู้คนอยู่เป็นประจำ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Veles ยังทำการขุดและปีนขึ้นมาจากเมืองด้านล่างอันเฉอะแฉะ เพื่อมาลักฝูงวัว ภรรยา และลูกของเขาไป

ณ ค่ำคืนสุดท้ายแห่งเดือนกุมภาพันธ์ Jarilo บุตรชายคนที่ 10 ของ Perun ได้ถือกำเนิดขึ้น ในคืนเดียวกันนั้นเอง Jarilo ก็ถูกลักพาตัวไปที่ดินแดนแห่งความตายของเมืองด้านล่าง Veles ใช้สถานที่แห่งนั้นเลี้ยงดู Jarilo จนเติบใหญ่ ดินแดนแห่งความตายเป็นสถานที่กว้าง รายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าอันชุ่มฉ่ำจากฤดูใบไม้ผลินิรันดร์ Jarilo ช่วย Veles พ่อบุญธรรมของเขาดูแลฝูงวัว ดินแดนแห่งความตายทอดยาวไปถึงมหาสมุทร พวกนกที่บินอพยพต่างก็จะบินไปยังที่นั่นในทุกๆ ฤดูหนาว

Jarilo ไม่ได้อาศัยอยู่ที่เมืองด้านล่างตลอดเวลา เขาเป็นเทพที่เต็มไปด้วยพลังชีวิตที่อ่อนเยาว์ ซึ่งเขามีหน้าที่ควบคุมการขยายพันธุ์ และการเจริญเติบโตของพืชพรรณ เมื่อฤดูหนาวสิ้นสุดลง เขาก็จะนำฤดูใบไม้ผลิและความอุดมสมบูรณ์จากดินแดนแห่งความตายกลับไปที่เมืองด้านบน ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว Jarilo ต้องใช้พลังของเขาในฐานะที่เป็นเทพแห่งฤดูใบไม้ผลิและสงคราม มาขับไล่ความหนาวเย็นและความมืดแห่งรัตติกาลออกไป เพื่อนำฤดูใบไม้ผลิมาสู่โลก

เทพตนแรกที่สังเกตเห็นการกลับมาสู่โลกของ Jarilo ก็คือ Morana เธอเป็นเทพีแห่งความตายและธรรมชาติ เธอยังเป็นบุตรสาวของ Perun และก็เป็นน้องสาวของ Jarilo ด้วย ทั้งสองตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็วและเฉลิมฉลองพิธีแต่งงานของพวกเขาในฤดูร้อน ความผูกพันระหว่าง Jarilo และ Morana ถือเป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญาแห่งความอุดมสมบูรณ์ จากเทพแห่งพืชพรรณและธรรมชาติ พิธีแต่งงานของพวกเขายังนำช่วงเวลาปรองดองสั้นๆ มาสู่ Perun และ Veles อีกด้วย หากเก็บเกี่ยวในช่วงปลายฤดูร้อนก็จะได้รับพรและประสบความสำเร็จ

แต่แล้ว Jarilo ก็ไม่ใช่สามีที่จงรักภักดีต่อเธอ เพื่อเป็นการล้างแค้นที่สามีไม่ยอมซื่อสัตย์ Morana จะลงมือกำจัด Jarilo ในช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวพืชผล และเธอจะนำส่วนหนึ่งในร่างกายของ Jarilo มาประกอบเป็นบ้านใหม่อีกด้วย Morana ที่สูญเสียสามีไป เธอค่อยๆ กลายเป็นแม่มดเฒ่าที่หดหู่และเดียวดาย... เทพีแห่งความตายที่ทั้งน่ากลัวและอันตราย... นำความหนาวเย็นยะเยือกและฤดูหนาวมาสู่ผืนปฐพี Morana กำลังจะได้เผชิญกับความตายภายในสิ้นปี และได้เกิดใหม่เป็น Vesna ในเวลานั้นเอง หลังจากที่ Jarilo ตาย เขาได้กลับมาเกิดใหม่ และได้กลับมายังโลกอีกครั้ง จากนั้นตำนานทั้งหมดก็ได้เริ่มต้นใหม่ขึ้นอีกครั้ง

วัฏจักรแห่งการเกิดและตาย ยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาเนิ่นนาน Jarilo ผู้ไร้ความซื่อสัตย์ถูกกำจัดในช่วงเก็บเกี่ยวของฤดูใบไม้ร่วง และ Morana ที่อ้างว้างก็จะตายภายในสิ้นปี เทพสองตนได้กลับมาเกิดใหม่และตกหลุมรักกันอีกครั้ง เพื่อให้ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ในทุกๆ ปี จนกระทั่งวนมาถึงช่วงเก็บเกี่ยวของฤดูใบไม้ร่วงอีกรอบ Morana ได้ลงมือกำจัด Jarilo ลงด้วยความเดือดดาลที่เหมือนกันกับในอดีตอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นับวันบ้านของเธอก็เริ่มผุกร่อนลง Morana ไร้ที่พักพิงในช่วงฤดูหนาวที่แสนหนาวเหน็บ เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้กระตุ้นซึ่งโทสะของ Morana และเธอไม่อาจยอมรับถึงการกลับมาอยู่ร่วมกันกับ Jarilo หลังจากการตายและเกิดใหม่ได้อีกต่อไป ในฐานะเทพีแห่งความตายและธรรมชาติ เธอทำการสาปแช่งตัวเองด้วยคำสาปอันโหดร้าย... เมื่อเธอต้องตายอีกครั้ง เธอก็จะไม่ต้องมาเกิดเป็น Vesna เทพีแห่งความเยาว์วัยและฤดูใบไม้ผลิอีกต่อไป

คำสาปสัมฤทธิ์ผล คราวนี้ Morana ยังไม่ต้องตายภายในสิ้นปี แม้ว่าเธอจะกลายเป็นแม่มดเฒ่าผู้โดดเดี่ยวแสนน่ากลัวและอันตราย รัตติกาลแห่งความหนาวเหน็บในปีนี้ กินเวลายาวนานกว่าปีไหนๆ และอาจจะยาวไปจนถึงปีหน้าเลยก็เป็นได้ เมื่อ Jarilo กลับมายังโลก ในที่สุด Morana ก็ถึงคราวที่ต้องดับสูญ และไม่อาจฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง เมื่อต้องเผชิญกับลมพายุหิมะที่โหดเหี้ยมและไร้ปรานี Jarilo จึงตระหนักได้ว่า เขาได้ทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไปเสียแล้ว... เขาไม่สามารถเอาชนะความหนาวเหน็บและค่ำคืนอันแสนมืดมิดได้เพียงลำพัง ฤดูใบไม้ผลิยังคงเดินทางมาไม่ถึงปีนี้เสียที

Jarilo ที่จมปรักอยู่กับความสิ้นหวัง ตัดสินใจออกตามหาพ่อของเขา... ทั้งนี้ก็เพื่อกลับตัวกลับใจและแสวงคำให้อภัยจาก Perun หัวหน้าของเหล่าเทพ เมื่อ Perun ได้ฟังเรื่องราวของทั้งสองแล้ว แม้ว่า Perun จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจ Morana ก็ตาม แต่ก็ไม่อาจยอมรับในคำสาปได้ หากปราศจากฤดูใบไม้ผลิ โลกใบนี้ก็จะค่อยๆ ดับสูญไปในคืนฤดูหนาวที่แสนหนาวเหน็บ Perun ผู้ทรงปัญญา ชี้ให้เห็นถึงความผิดบาปอันเย่อหยิ่งที่ Jarilo ได้กระทำลงไป และเขาได้ทำนายว่า หาก Jarilo สามารถมอบความรักที่ซื่อสัตย์และเป็นนิรันดร์ให้กับ Morana ได้อีกครั้ง ความโกรธของเธอก็จะสงบลงจนหมดสิ้น

Jarilo ผู้เย่อหยิ่ง ตกอยู่ในความระทมทุกข์ แต่กระนั้น พายุหิมะยังคงโหมกระหน่ำ และสร้างหายนะต่อโลกอย่างยาวนานจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ในจุดจบของเรื่องราว Jarilo ที่มีความสำนึกผิด ยอมสละวัฏจักรชีวิตที่จะได้เกิดใหม่ของเขา... เพื่อสาบานว่าจะซื่อสัตย์ตลอดไปต่อคนรักที่ล่วงลับไปแล้ว คำทำนายของ Perun กลายเป็นจริง ความสำนึกผิดและความคนึงคิดถึงของ Jarilo กลายเป็นฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่นซึ่งมีแต่การให้อภัยบนดินแดนแห่ง Belobog และปกป้องผู้คนที่อยู่ที่นี่ให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขสงบบนโลกที่ต้องเผชิญกับพายุหิมะโหมกระหน่ำ