"องค์กรสันติภาพแห่งดวงดาว"

บทที่2 6 3 4: องค์กรสันติภาพแห่งดวงดาว

"ราชาแห่งอำพัน" Qlipoth... ยักษ์ใหญ่ผู้ไร้ความคิด เงียบขรึม ไม่สนเรื่องทางโลก ในใจรู้แค่เรื่องการสร้างกำแพงเมืองที่ลึกลับและใหญ่โตจนไม่มีใครเปรียบได้ ทำไปเพื่ออะไร? ไม่รู้ ป้องกันอะไร? ไม่ทราบ แต่สมองของคนที่ปกติอย่างพวกเรา เมื่อรู้ว่าตนไม่รู้แล้ว ก็ย่อมละทิ้งมันไว้ข้างหลัง แต่บนโลกนี้ช่างโชคร้ายที่มีกลุ่มคนผิดปกติ เหล่ามนุษย์แบ่งได้เป็นสองประเภท หนึ่งในสองประเภทคิดว่า: ว้าว ท่านเทพกำลังสร้างกำแพง... งั้นก็แปลว่าการสร้างกำแพงนี้เป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์สินะ... โอ้ ท่านเทพ เราก็ต้องการกำแพงด้วยเช่นกัน! ...นี่มันเป็นตรรกะแบบไหนกันนะ? คนกลุ่มนี้มักคิดว่าตัวเองได้รับการเปิดทางจากทวยเทพแล้ว จึงเริ่มใช้ทรัพยากรวัสดุอันล้ำค่าบนดาวเคราะห์ของตนไปกับการสร้างสิ่งที่ไร้ประโยชน์ พวกเขาเรียกตัวเองว่า "ผู้สร้างเมือง" ส่วนมนุษย์อีกประเภทหนึ่งก็คือ แรกๆ พวกเขาเองก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่าผู้สร้างเมืองเท่าไหร่หรอก และถึงแม้ว่าสมองของผู้สร้างเมืองจะไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ก็เถอะ แต่ถึงยังไงก็พวกเขาก็ยังคิดถึงเรื่องผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับมากกว่า แต่มนุษย์อีกประเภทนึงกลับคิดว่า: ว้าว ท่านเทพกำลังสร้างกำแพง... งั้นก็แปลว่าการสร้างกำแพงนี้เป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์สินะ... โอ้ ท่านเทพ เราเองก็อยากจะช่วยสร้างกำแพงด้วย! ...นี่มันอะไรกันเนี่ย?

ดังนั้นในจักรวาลแห่งนี้ มนุษย์ที่เต็มไปด้วยความทุ่มเท ต่างก็มารวมตัวกันเพื่อก่อตั้งเป็นทีมสนับสนุน Qlipoth ทีมสนับสนุนรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถอะไร จึงใช้พลังแห่ง Path เพื่อโบยบินไปยังโลกต่างๆ แล้วกว้านซื้อวัสดุทุกชนิดที่จำเป็นต่อการสร้างกำแพง ก่อนจะนำมามอบให้กับทวยเทพ ในเวลานี้เอง ก็ได้มีคนฉลาดสองคนปรากฏขึ้นมาในกลุ่มคนเขลา และได้เปลี่ยนโชคชะตาไปทั่วทั้งจักรวาล

ด้านล่างนี้ ผู้เขียนจะอธิบายอย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

อันดับแรกเลย ทีมสนับสนุนได้บินไปยังดาวเคราะห์ที่ไม่คุ้นเคย พวกเขาโชคดีมาก เนื่องจากว่าผู้ที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ต่างก็เป็นมิตร ทั้งยังมีจิตใจดี และได้ให้การต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น ทีมสนับสนุนกล่าวว่า: เรียนสหายทุกท่าน! ตอนนี้จักรวาลกำลังตกอยู่ในอันตราย เทพดาราของเรากำลังสร้างกำแพงจากความเร็วปีแสงเพื่อปกป้องกาแล็กซี และเราก็อยากให้พวกคุณทุกคนได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างยิ่ง!

มนุษย์ต่างดาวคนนั้นพูดพลางยิ้มเบาๆ: ว้าว เยี่ยมไปเลย งั้นขอถามหน่อยสิ พวกเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง?

ทีมสนับสนุนกล่าว: พวกเราต้องการไม้ หิน เหล็ก ปูน โลหะผสมไททาเนียม... สรุปง่ายๆ ก็คือ วัสดุอะไรก็ตามที่ใช้ในการก่อสร้างได้ พวกเราล้วนต้องการทั้งสิ้น

งั้นก็เยี่ยมเลย มนุษย์ต่างดาวกล่าว พวกเรามีวัสดุพวกนี้อยู่เยอะแยะเลย ว่าแต่ พวกคุณจะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนล่ะ?

...และนี่คือจุดเริ่มต้นของสัญลักษณ์แรกแห่งเศรษฐศาสตร์ที่ได้ถือกำเนิดขึ้น: ทรัพยากรได้เกิดการแลกเปลี่ยน...

ทีมสนับสนุนกล่าว: โอ้ พวกเรามีไม้ หิน เหล็ก ปูน โลหะผสมไททาเนียมเยอะแยะเลยล่ะ... สรุปง่ายๆ ก็คือ วัสดุอะไรก็ตามที่ใช้ในการก่อสร้างได้ พวกเรามีหมด

มนุษย์ต่างดาวกล่าว: แบบนี้ต่อให้แลกเปลี่ยนกันไปก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรขึ้นมา

และแล้วคนฉลาดของพวกเรา ก็จะออกมาในฉากนี้นี่แหละ ชื่อของชายสองคนนี้จะถูกจารึกไว้บนผนังและเพดานทุกแห่งในองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาว: นั่นก็คือ Louis Fleming และ Dongfang Qixing นั่นเอง คนฉลาดรีบตอบกลับทันทีว่า: ห่างจากที่นี่ไปอีกสามกาแล็กซี จะมีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ชื่อว่า Clementine พวกเขามีผลผลิตพิเศษที่ชื่อว่า Winter Sun Fruit มันมีรสชาติที่อร่อยเกินต้าน แถมยังละลายในปากด้วยนะ พวกเขาพูดเสียเวอร์วังอลังการราวกับว่าผลไม้ชนิดนี้คงจะไม่มีที่ไหนอีกแล้วนอกจากที่นั่น

ว้าววว มนุษย์ต่างดาวพูดว่า: มันฟังดูน่าสนใจทีเดียว เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นไม้ 500 กิโลกรัมนี้ ก็จะนำมาแลกเปลี่ยนกับผล Winter Sun Fruit 500 กิโลกรัม

...พอมาถึงตอนนี้ ทุกคนลองดูสิ ทรัพยากรก็สามารถมีมูลค่าในเชิงปริมาณด้วยเช่นกัน...

ผล Winter Sun Fruit มันมีมูลค่ามากๆ เลยนะ Louis Fleming คนฉลาดหมายเลข 1 กล่าวว่า ในช่วงเวลาหนึ่งยุคอำพัน มันอาจจะให้ผลผลิตไม่ถึง 500 กิโลกรัมด้วยซ้ำ! แต่ไม้ 500 กิโลกรัม ก็เป็นแค่สิ่งเล็กๆ สำหรับพวกคุณใช่มั้ยล่ะ อย่างนี้ก็แล้วกัน เราเอาไม้ 500 กิโลกรัมมาแลกกับผล Winter Sun Fruit 2.5 กิโลกรัมดีมั้ย ฉันรับประกันว่าคุณจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน!

เรียนเหล่าผู้อ่านที่รัก บทสนทนานี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 800 ปีก่อนในยุคอำพัน ดังนั้น ตอนนี้ทุกท่านคงจะมองออกได้อย่างรวดเร็วเลยว่า: คนฉลาดหมายเลข 1 นั้นกำลังปั้นเรื่องอยู่ชัดๆ เลย ถึงแม้ว่าผล Winter Sun Fruit จะอร่อยก็จริง แต่มันก็ไม่ได้หายากขนาดนั้นหรอก คนฉลาดกำลังโกหกอยู่ เพราะเขาสนใจแค่ทรัพยากรเท่านั้น: เนื่องจากข้อมูลในมือแต่ละคนมีไม่เท่ากัน หากใครคนหนึ่งมีข้อมูลมากกว่าฝ่ายตรงข้าม ก็ย่อมมีสิทธิ์ลงมือก่อน หากลองคิดๆ ดู ในกรณีนี้คนฉลาดหมายเลข 1 จึงมีสิทธิ์ตั้งราคา

และแล้ว สิ่งต่างๆ ก็เริ่มไปในทิศทางที่ถูกต้อง: หลังจากที่ทีมสนับสนุนตระหนักได้ว่าหากต้องการสิ่งของ ก็จำเป็นต้องจัดหาของที่อีกฝ่ายสนใจไปแลกเปลี่ยนด้วย เพราะเหตุนี้เอง ทีมสนับสนุนจึงไม่ได้ซื้อแค่วัสดุก่อสร้างอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ของใช้ต่างๆ... ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดาวดวงอื่นสนใจ พวกเขาก็จะซื้อมาทั้งหมด ยิ่งมีการซื้อขายมากขึ้นเท่าไหร่ ธุรกิจก็ยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ Dongfang Qixing คนฉลาดหมายเลข 2 ตระหนักได้ว่า: ในเมื่อพวกเขาเป็นเพียงกลุ่มเดียวในจักรวาลที่ทำธุรกิจนี้อยู่ ถ้าอย่างนั้นก็ได้เวลาตั้งกฎเกณฑ์ของตัวเองขึ้นมาแล้ว

...ด้วยเหตุนี้ สกุลเงินระหว่างดวงดาวจึงถือกำเนิดขึ้น...

เป็นเวลากว่า 770 ปีในยุคอำพันที่ Louis Fleming และ Dongfang Qixing ได้เริ่มประกาศว่าจะจัดระเบียบทีมสนับสนุนใหม่ และได้ก่อตั้งองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาวขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง องค์กรสันติภาพแห่งดวงดาวก็ได้เปิดตัวสกุลเงินสากลแห่งจักรวาลซึ่งก็คือเครดิตขึ้นมา และนับตั้งแต่นั้นมา ผู้คนบนดาวเคราะห์ต่างๆ ก็ไม่ต้องมากังวลอีกแล้วว่าสินค้าของพวกเขาจะสามารถแลกเป็นของสิ่งของอื่นๆ ได้ปริมาณเท่าไหร่... เพราะทุกอย่างได้ถูกกำหนดราคาไว้แล้ว! พวกเขาได้รับเครดิตจากองค์กร และนำเครดิตนี้ไปซื้อสินค้าจากองค์กร ซึ่งการทำธุรกรรมแบบนี้ จะไม่ต้องผ่านตลาดที่สามโดยมีองค์กรเป็นศูนย์กลางอีกต่อไป และยังสามารถชำระเงินกับองค์กรได้โดยตรงอีกด้วย ในมุมมองของผู้ซื้อและผู้ขาย มันอาจดูเหมือนไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรนัก แต่องค์กรกลับได้ประโยชน์อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

การเคลื่อนไหวทางทรัพย์สินของผู้ซื้อและผู้ขายดูเหมือนว่าจะหยุดชะงักลง

...และการหยุดชะงักลงนี้เอง จึงส่งผลให้ทรัพย์สินเกิดการตกค้าง...

ทรัพย์สินนับล้านล้านเหล่านี้ถูกซ่อนไว้อย่างเงียบๆ ภายใต้รูปแบบเครดิตขององค์กรสันติภาพแห่งดวงดาว พวกเขาพยายามเติมเต็มกระเป๋าให้เต็มแน่นให้ไวที่สุด แต่ทว่ากระเป๋าของพวกเขากลับเป็นหลุมลึกที่ไม่มีก้น! และด้วยเหตุผลนี้นี่เอง ไม่นานองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาวที่เดิมทีเป็นเพียงแค่องค์กรเล็กๆ ที่คอยจัดซื้อทรัพยากรให้แก่เทพดารา ก็ได้กลายเป็นองค์กรแข็งแกร่งที่มีอิทธิพลที่สุดในจักรวาล

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม แต่ทางองค์กรเองก็ยังไม่ลืมจุดประสงค์แรกเริ่มในการก่อตั้ง ปัจจุบันนี้ ทางองค์กรมีวัสดุก่อสร้างสะสมมาตลอด 800 ยุคอำพันที่เยอะจนแทบจะถมดาวเคราะห์ทุกดวงที่รายล้อมเทพดารา Qlipoth ได้แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นจำนวนก็ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง แต่เทพดาราก็ไม่ได้เอ่ยอะไร หรือใช้ประโยชน์จากข้อเสนอของพวกเขาเลย ทว่าทัศนคติขององค์กรก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง:

นี่คือความศรัทธา