...อาจารย์ เรากำลังจะไปจากบ้านที่เขียวขจี มิอาจหวนกลับมาได้อีก...
...เราไม่เคยจากที่นี่ไป บ้านที่เขียวขจีไม่ได้อยู่ที่ใด แต่มันอยู่ที่นี่ ที่ที่พวกเราอยู่ นั่นก็คือบ้านที่เขียวขจี
ผลงานชิ้นนี้ มีต้นแบบเป็นตำนานที่สร้างโดยมนุษย์จิ้งจอก ซึ่งบอกเล่ามหากาพย์เรื่องราวที่มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย ก่อนจะมีผลงานเรื่อง "บ้านที่เขียวขจี" ผีเสื้อห้วงมายามักจะนำมาใช้เล่าเรื่องราวแค่ด้านเดียวเท่านั้น ทว่า "บ้านที่เขียวขจี" ได้กลายเป็นห้วงมายาที่ริเริ่มการเล่าเรื่องราวในหลากหลายมุมมอง ทำให้ผู้ที่สัมผัสประสบการณ์ได้สัมผัสกับสงคราม สันติภาพ ความมั่นคงปลอดภัย และการอพยพพเนจร ผ่านมุมมองของนักปราชญ์โบราณสามคนคือ Qingzheng, Manzhi และ Li Si
สหพันธ์ Xianzhou และองค์กรสันติภาพแห่งดวงดาว เคยมีช่วงที่เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเชิงลึก ซึ่ง "บ้านที่เขียวขจี" ก็คือผลงานที่กำเนิดขึ้นในช่วงเวลานั้นเอง Bashir Bassett อาจเป็นผู้เขียนบทที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในค่ายสื่อบันเทิงสันติภาพแห่งดวงดาว และในบทของ "บ้านที่เขียวขจี" ก็ได้แสดงให้เห็นถึงฝีมือการเขียนอันล้ำลึกของเธออีกด้วย
นอกจากนั้น การสร้างสรรค์ฉากสงคราม และการปรับเปลี่ยนมุมมองของตัวละครในผลงานชิ้นนี้ของ Yuan Bo ก็ได้กลายมาเป็นสื่อการสอนพื้นฐาน ที่สำคัญของผีเสื้อห้วงมายาในยุคหลังอีกหลายเรื่องเช่นกัน
แต่เราก็สามารถพูดได้ว่า ผลงานผีเสื้อห้วงมายาชิ้นนี้เป็นสิ่งพิเศษที่สามารถเกิดขึ้นได้ในยุคนั้นเท่านั้น ด้วยทรัพยากรทางการเงินของ Xianzhou การถ่ายทำฉากอันตระการตาที่มีผู้คนเรือนหมื่นมาต่อสู้กันนั้นถือเป็นเรื่องยาก ค่ายสื่อบันเทิงสันติภาพแห่งดวงดาวจึงได้มอบเทคโนโลยี "Free-Will Illusion" ซึ่งทำให้เอฟเฟกต์สุดอัศจรรย์ที่สามารถมอบ "ความรู้สึกเสมือนตนอยู่ในเหตุการณ์" ชนิดนี้ ได้กลายมาเป็นเรื่องจริง
บางครั้งเราก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ทั้งกาแล็กซีนั้นเป็นเหมือนเกาะที่แยกจากกัน โดยมีชาวเกาะพึ่งพาอาศัยกันและกัน และเป็นศัตรูกับคนนอกทุกคน เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันก็จะไปดื่มด่ำอยู่ใน "บ้านที่เขียวขจี" อีกครั้ง ไม่ใช่เพราะต้องการสัมผัสกับพล็อตเรื่อง แต่เพื่อที่จะได้ยืนยันกับตัวเองอีกครั้ง ว่าเมื่อสองอารยธรรมร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์แบบไหนออกมาได้บ้าง