ศิลปะการเล่าเรื่อง คือศิลปะพื้นบ้านที่ชาว Xianzhou แทบทุกคนชื่นชอบ ซึ่งรูปแบบการแสดงนั้นเรียบง่ายมาก โดยบนเวทีจะมีคนเพียงหนึ่งคน พัดหนึ่งอัน และแท่งไม้หนึ่งแท่ง กับเหล่าผู้ฟังเต็มโรงเท่านั้น อาศัยเพียงหนึ่งปากมาเล่าเรื่อง ก็สามารถถ่ายทอดความสุนทรีย์แบบโบราณออกมาได้อย่างหมดจด
เนื้อหาของศิลปะการเล่าเรื่องมีอยู่สามประเภท ได้แก่ ตำนาน นิยายอิงประวัติศาสตร์ และเรื่องเล่าชาวบ้าน ตำนานนั้นจะแบ่งออกเป็น เรื่องผีสางเทวดา คดีความ และผู้กล้าผดุงคุณธรรม ส่วนนิยายอิงประวัติศาสตร์จะแบ่งเป็น เรื่องเกี่ยวกับจักรพรรดิ วีรชน และคนชั่วร้าย แต่เรื่องเล่าชาวบ้านนั้นไม่ได้มีการแยกย่อยที่ชัดเจนอะไร โดยเนื้อหาส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องราวใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ซึ่งเน้นที่อารมณ์ขันเป็นหลัก
มองเผินๆ แล้ว ศิลปะการเล่าเรื่องอาจดูเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่ที่จริงแล้วมันมีเทคนิคการแสดงที่หลากหลาย ฉันเล่าเรื่องมาอย่างน้อยๆ ก็หกร้อยปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนรุ่นหลังที่ยังหลับหูหลับตาถามฉันอยู่ว่า "คุณ Xiyan เล่าเรื่องเป็นรึเปล่า?" ฉันก็ได้แต่ทำเนียนตอบไปว่า "ก็พอเป็นอยู่บ้าง"
ศิลปะการเล่าเรื่องอาศัยแค่ฝีปาก แต่ก็ไม่สามารถทำให้คุณนั่ง "ฟังเรื่องเล่า" อยู่เฉยๆ ได้หรอก นักเล่าเรื่องจะต้องทำให้คุณสามารถ "มองเห็น จับต้อง และรับรู้กลิ่นเสียง" ได้ด้วย ถึงคุณจะนั่งเฉยๆ อยู่ตรงนั้น แต่ฉันก็ต้องทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเรื่องเล่าจริงๆ สมมติว่าวันนี้ฉันเล่าเรื่องสงครามเมื่อห้าพันปีก่อน... สมัยนั้นอย่าว่าแต่คุณเลย แม้แต่ตัวฉันเองก็ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ... แต่ฉันก็ต้องทำให้คุณฟังจบแล้วรู้สึกราวกับว่า คุณได้ประสบเรื่องนั้นกับตัวเอง และเมื่อกี้ก็เพิ่งหนีกลับมาจากแนวหน้าได้
พูดตามตรงนะ ถึงฉันจะอธิบายได้รสชาติขนาดไหน แต่คุณก็คงยากจะเข้าใจความรู้สึกนั้นจริงๆ เอาอย่างนี้สิ คุณลองหาเวลาไปชมการแสดงของฉันที่ Sleepless Earl ดู แล้วคุณก็จะเข้าใจเอง
ถ้าหากวันนั้นไม่มีการแสดงของฉันก็ไม่เป็นไร เพราะการแสดงต่างๆ ใน Sleepless Earl จะไม่ทำให้คุณเสียเที่ยวแน่นอน ส่วนเรื่องที่ว่ายังมีศิลปะพื้นบ้านของ Xianzhou อะไรที่น่ารับชมอีกบ้าง เราจะมาพูดคุยกันในบทต่อไป